วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

สรุปบทที่ 2  ปรัชญาการศึกษา

           
          ปรัชญาเป็นวิชาที่มุ่งศึกษาค้นคว้าหาความจริง  อันเป็นที่สุดเป็นการศึกษาว่า อะไรคือของจริงแท้    ปรัชญาจะมีความหมายแตกต่างกันออกไปตามสํานักและทัศนะ แต่มีลักษณะร่วม  คือ   เป็นการมุ่งแสวงหาความจริงอันเป็นที่สุด (ultimate reality)เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ต่าง ๆ   มีศัพท์เฉพาะศาสตร์ที่ใช้สื่อความหมาย ระหว่างกันเป็นการเฉพาะ  มีขอบเขต  4  แขนง คือ  อภิปรัชญา (metaphysics)เป็นปรัชญาที่มุ่งศึกษาและค้นหาเกี่ยวกับภาวะความจริง สูงสุด เป็นความจริงพื้นฐานขั้นสุดท้าย หรือเรียกว่า “ความจริงอันติมะ”  ญาณวิทยา (epistemology)  มุ่งศึกษาที่จะวิเคราะห์หลักหรือทฤษฎีแห่งความรู้ที่มีความสำคัญต่อปรัชญาการศึกษา จะต้องจัดการศึกษาเพื่อให้ผู้เรียนฝึกฝนและค้นหาความรู้และความจริง เกี่ยวกับโลกและชีวิต คุณวิทยา (axiology) ปรัชญาแขนงที่มุ่งวิเคราะห์คุณค่าหรือค่านิยมซึ่งเกี่ยวกับความดี และความงาม  และตรรกวิทยา (logic)ปรัชญาโดยทั่วไปใช้วิธีทางตรรกวิทยา ในการศึกษาค้นคว้าหาความจริง  เป็นการใช้ความคิดอย่างเป็นระบบในการพิสูจน์หาความจริง ตามหลักเหตุผล
         
         ปรัชญาการศึกษา เป็นการแสวงหาความ เข้าใจเรื่องการศึกษาแล้วตีความเป็นความคิดรวบยอด จะนำไปสู่การปฏบัติที่เป็นระบบของการศึกษา  ดังนั้น  ปรัชญาและการศึกษา มีจุดร่วมกัน คือ การกําหนดคุณค่าและรู้จักชีวิตของมนุษย์ ความสัมพันธ์ ระหว่างปรัชญากับการศึกษาว่ามี อยู่  3  ลักษณะ

   1. ปรัชญาเสนอเป้าหมายของการศึกษา ว่าการศึกษาควรเป็นไปเพื่ออะไร
   2.  ปรัชญาวิพากษ์และวิเคราะห์การศึกษา วิพากษ์และวิเคราะห์ สาระและปัญหาของการศึกษา
   3.  เชื่อมโยงศาสตร์ทั้งหลายเกี่ยวกับการศึกษาให้กลมกลืนเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ใช้เป็นแนวทางในการจัดการศึกษา
            การศึกษาของไทยได้อาศัยปรัชญาตะวันตกมาประยุกต์ใช้ และพุทธปรัชญาได้นำหลักการของศาสนาพุทธมาประยุกต์ใช้

  บทที่  3 วิวัฒนาการของการศึกษาไทย

แบบฝึกหัด
1.แนวคิดทางการศึกษาของไทยยุคก่อนมีระบบโรงเรียน มีสาระสำคัญอะไรบ้าง
ตอบ  ยุคนี้การจัดการศึกษายังไม่มีระบบและแบบแผน คือ ไม่มีระบบโรงเรียน และชั้นเรียน วัดเป็นแหล่งให้ความรู้ มีพระภิกษุเป็นผู้สอนเพียงเพื่อประกอบอาชีพ   วิชาความรู้ส่วนใหญ่ที่ถ่ายทอดไม่มีการจดบันทึกไว้ใช้ความสามารถในการท่องจำมากกว่า        

2. สมัยกรุงสุโขทัยกับกรุงศรีอยุธยา การจัดการศึกษาเหมือนกันหรือต่างกันอย่างไรอธิบาย 
ตอบ  เหมือนกัน เพราะยังมีการใช้วัดเพื่อที่จะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา  และยังมีพระภิกษุเป็นผู้ให้ความรู้  ผู้ชายจะเรียนที่วัด เกี่ยวกับ การอ่าน การเขียน การรบ ส่วนผูหญิงเรียนที่บ้าน เกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อย

3. อิทธิพลชาวตะวันตกที่มีผลต่อการศึกษายุคก่อนมีระบบโรงเรียนมีอะไรบ้าง 
ตอบ  มีการสอนวิธีรบแบบชาติตะวันตก สอนการต่อเรือ นำตำหรับยามาเผยแพร่  สอนวชิาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส  การก่อสร้าง

4. การจัดการศึกษาสมัยกรุงธนบุรีและสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีความก้าวหน้าอย่างไร
ตอบ  เริ่มนำวิทยาการใหม่ ๆเข้ามา  มีการจัดพิมพ์ตำราเรียน เป็นจุดเริ่มต้นการปฏิรูปการศึกษาของไทยในสมยัต่อมา

5. แบบเรียนเล่มแรกของไทยชื่อ เกิดในสมัยใด ตรงกับรัชกาลใด มีที่มาอย่างไร
ตอบ  ชื่อ “ จินดามณี”  เกิดขึ้นในสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช ประมาณ พ.ศ.2199 – 2231  มีที่มาจากการที่ ฝรั่งเศสได้มาติดต่อค้าขาย เผยแพร่ศาสนาคริสต์ ตั้งโรงเรียนสอนศาสนาคริสต์ ประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทยขึ้นเป็นครั้งแรก และสอนวิชาการแบบยุโรป อาทิ ดาราศาสตร์ ภาษาฝรั่งเศส ต่อเรือ การก่อสร้าง พระองค์เกรงว่าคน ไทยจะหันไปเข้ารีตและนิยมฝรั่ง  ทรงรับสั่งให้พระโหราธิบดี แตงหนังสือแบบเรียนภาษาไทยเป็น ของตนเอง ชื่อ “จินดามณี” ใช้เริ่มอ่านจนกระทั่งหัดเรียนรู้วรรณคดีและอักษรศาสตร์ไทยชั้นสูง

 6. การจัดการศึกษาภาคบังคับ มีลักษณะเป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ  การศึกษานั้นมีสองภาคคือ ภาคการศึกษาสำหรับทวยราษฎร์ ได้แก่ ประถมศึกษา เป็นการศึกษาภาคบังคับ มีความรู้ทั้งฝ่ายสามัญศึกษาและวิสามัญศึกษา  และภาคศึกษาพิเศษ เรียกว่ามัธยมศึกษา เรียนทั้งสามัญและวิสามัญ ไม่บังคับให้เรียนทุกคน

 7. การจัดการศึกษาที่เรียกว่า มาติกาศึกษา เป็นอย่างไร จงอธิบาย ยกเหตุผล
ตอบ  การศึกษามีศูนย์กลางอยู่ที่วัดเหมือนสมัยอยุธยา ซึ่งการจัดการศึกษาที่เรียกว่า มาติกาศึกษา มีอยู่ 8 มาติกา คือ
  1 ตำบลที่เล่าเรียนคือที่ตั้งของวัด
  2 โรงเรียนคือ ที่เรียนในวัด เช่น หอฉัน หอสวดมนต์
  3 นักเรียนและครู มี 3 ประเภทคือ ภิกษุ สามเณร และศิษย์วัด
  4 เวลาเรียนคือ ตอนพระว่าง
  5 เครื่องเล่าเรียนคือ กระดานชนวน ดินสอพอ กระดาษข่ายเป็นต้น
  6 วิชาหนังสือคือ หนังสือเรียนและหนังสืออ่านประกอบ
  7 วิชาเลขคือ เลขคณิตวิธีต่าง ๆ
  8 ข้อบังคับการเรียนคือ ระเบียบวินัย การลงโทษ และการชมเชย

8. การจัดการศึกษาที่มุ่งคนเข้ารับราชการตรงกับสมัยใด จงอธิบาย ยกเหตุผล  
ตอบ  รัชกาลที่ 5 เพราะ จะได้ทัดเทียมประเทศอื่นเพื่อที่จะไม่ล้าหลัง และเป็นการป้องกันการล่าอาณานิคมจากชาติตะวันตก

9. การปฏิรูปการศึกษาในยุคปัจจุบันท่านเห็นด้วยหรือไม่ จงอธิบาย ยกเหตุผล 
ตอบ  เห็นด้วย เพราะ ปัจจุบัน มีสื่อต่างๆและเทคโนโลยีต่างๆ มากมาย ทำให้ง่ายและเอื้ออำนวยความสะดวกในการศึกษาค้นคว้า  เป็นการเสริมสร้างความรู้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับการใช้ประโยชน์ และการนำไปใช้ให้ได้ถูกทางตามความเหมาะสม

10. ท่านเข้าใจการจัดการศึกษาเข้าสู่สมาคมอาเซียน มียุทธศาสตร์ที่สำคัญอย่างไร
ตอบ  มียุทธศาสตร์ที่สำคัญ  คือ การเสริมสร้างความตระหนักเกี่ยวกับอาเซียน  พัฒนาศักยภาพของนักการศึกษา ครู และ บุคลากรทางการศึกษา  เพิ่มคุณภาพการศึกษา การจัดมาตรฐานการศึกษา การศึกษาตลอดชีวิตและการพัฒนาวิชาชีพครู  จัดการศึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดแรงงานและสภาพเศรษฐกิจของยุคโลกาภิวัตน์   เพื่อพัฒนา การศึกษา  สนับสนุนการศึกษาเพื่อพัฒนาสิ่งแวดล้อม


        สรุป  

บทที่ 3 วิวัฒนาการการจัดการศึกษาไทย

            วิวัฒนาการการจัดการศึกษาไทย ได้บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงการศึกษาไทยแต่ละยุค แต่ละสมัย  ซึ่งเราต้องศึกษาประวัติและวิวัฒนาการศึกษาของไทยที่ผ่านมา เพื่อที่จะเข้าถึงการ เปลี่ยนแปลงที่สำคัญ โดยแบ่งเป็นแนวคิดการจัดการศึกษาไทย   สมัยต่างๆ ดังนี้
                                 
   1.) การศึกษาไทยยุคสมัยโบราณ จัดการศึกษาที่ไม่มีระบบและแบบแผน
   2.) การจัดการศึกษาสมยักรุงศรีอยุธยา มีจตุสดมภ์ 4 คือ เวียง วัง คลัง นา มีระบบศักดินา และการจัดการศึกษาที่วัด และบ้าน  ได้ติดต่อกับฝรั่งชาติตะวันตก ค้าขายและเผยแพร่ศาสนา ประดิษฐ์ตัวพิมพ์อักษรไทย ขึ้นเป็นครั้งแรกรับวชิาการแบบยุโรป และแต่งแบบเรียนคือ จินดามณี เล่มแรกของไทย  
   3.) การจัดการศึกษาในสมัยกรุงธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตอนต้นมีการเปลี่ยนแปลงไม่เด่นชัด เริ่มนำวิทยาการใหม่ ๆ จัดพิมพ์ตำราเรียน เป็นจุดเริ่มต้น การปฏิรูปการศึกษาไทย
   4.) สมัยการปฏิรูป  สมัยนี้การจัดการศึกษาไทย  จัดขึ้นเพื่อความอยู่รอดปฏิรูปอย่างเป็นระบบตามแบบแผน   การจัดการศึกษาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน
   5.) ยุคเริ่มแรกของการจัดศึกษาไทย:  เป็นก้าวแรกของการจัดการศึกษาเป็นรูปแบบที่ชัดเจน คือ “โรงเรียน” และกระทรวงศึกษาธิการทำหน้าที่จัดการศึกษา ประกอบกับมีพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับสําหรับราษฎรทุกคนทุกพื้นที่
   6.) ยุคขยายงานของการศึกษาไทย : ก้าวทสี่อง  ประเทศตกอยู่ในภาวะสงคราม ภายหลังได้มีการเร่งรัดปรับปรุง การศึกษาให้มีความเจริญก้าวหน้าทุก ๆ ด้าน
   7.) ยุคแสวงหา การจดัการศึกษาได้รับความร่วมมือกับองค์กรระหว่างประเทศ  มุ่งพัฒนาคนได้ จัดการศึกษาภาคบังคับให้ทั่วถึง
   8.) ยุคแห่งความหวังของการปฏิรูปการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ปฏิรูป  3 ระยะคือ จัดตั้งศูนยป์ฏิรูปการศึกษา เปลี่ยนสำนักปฏิรูปเป็นสำนักงานโครงการนำร่อง และประกาศเขตพื้นที่การศึกษา อีกทั้งปฏิรูปครู และบุคลากรทางการศึกษา
   9.) การจัดการศึกษาเตรียมเข้าสู่สมาคมอาเซียน กําหนดยุทธศาสตร์ที่สําคญัคือ สร้างความ ตระหนัก หลักสูตรระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา เตรียมบุคลากรครูและนักเรียนเพื่อรองรับ และขยายโอกาสทางการศึกษา