วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558


การศึกษาโลก

การศึกษาในประชาคมอาเซียน

1.ชื่อเรื่อง คุยกับดำรง มาตรฐานการศึกษาไทย
       1.1ข้อสรุปประเด็นที่ได้
    ผลการจัดอันดับของ "World Economic Forum- 2013-2014" ต่อระบบการศึกษาไทย ประเทศไทยได้อันดับที่8 ซึ่งเป็นอันดับเกือบสุดท้ายของอาเซียน โดยประเทศสิงคโปร์เป็นอันดับที่ 1 ของอาเซียน โดยประเทศสิงคโปร์จะเน้นงบประมาณการศึกษาเป็นอันดับที่1 แต่ประเทศไทยนำงบประมาณของประเทศไปทำอย่างอื่น ทำให้งบประมาณการศึกษาอยู่ที่อันดับ 9
       1.2 ข้อคิดที่ได้  
    ประเทศไทยควรจัดสรรงบประมาณการศึกษาให้เกิดประโยชน์มากกว่าเดิม โดยอาจส่งเสริมให้เด็กได้เรียนหนังสืออย่างมีคุณภาพอย่างแท้จริง

2.ชื่อเรื่อง การขับเคลื่อนการศึกษาไทยสู่ประชาคมอาเซียน
       2.1 ข้อสรุปประเด็นที่ได้
    ดร.สุรินทร์ บอกให้คนไทยต้องเตรียมตัวเองเพื่อก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ใน 4 ด้าน การปรับเปลี่ยนวิธีคิด วิธีมอง พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงและความแตกต่างที่หลากหลาย ภาษา ความสามารถในการสื่อสาร โดยเฉพาะภาษาอังกฤษ ซึ่งเป็นภาษากลางของ AEC ในอนาคต 
      2.2 การเปิดอาเซียนของประเทศไทยควรมีพื้นฐานในหลายด้านที่มั่นคงก่อน เพื่อเป็นมาตรฐานของประเทศที่กำลังพัฒนาให้เป็นประเทศเจริญทางการศึกษาปัจจุบันนี้

3.ชื่อเรื่อง การศึกษาไทยในประชาคมอาเซียน ตอน 1
       3.1 ข้อสรุปประเด็นที่ได้  
    การเตรียมความพร้อมของรัฐบาลในเชิง คือ กระทรวงศึกษาธิการได้รองรับการเตรียมความพร้อมของอุดมศึกษาไทยในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียน โดยที่ผ่านนโยบายที่รองรับการเข้าสู่ประชาคมอาเซียนของรัฐบาลยังไม่มีความชัดเจนในการนำไปสู่การปฏิบัติ ซึ่งควรมีนโยบายในการปรับตัวและการเตรียมความพร้อมในการก้าวเข้าสู่ประชาคมอาเซียนแก่มหาวิทยาลัยในประเทศไทย
ข้อคิดที่ได้  
      3.2  การที่จะพัฒนาการศึกษาได้นั้นผู้ที่มีอำนาจทางการเมืองควรหันมาสนับ
สนุนการศึกษาไทยมากกว่าการคอร์รัปชั่นเพื่อตัวเอง
\
4.ชื่อเรื่อง การศึกษาไทยในประชาคมอาเซียน ตอน 2
    4.1 ข้อสรุปประเด็นที่ได้
    ประเทศไทยจะต้องใช้ความต่อเนื่องของนโยบาย ต้องใช้ความทุ่มเท ต้องใช้สมรรถภาพของหน่วยงานและองค์กรต่างๆ  คือ ความสามารถในการแข่งขัน การพัฒนาคุณภาพทรัพยากรมนุษย์ เพราะปัญหาภายในของประเทศไทยที่เปลี่ยนนโยบาย ไม่มีความต่อเนื่อง ทำให้ไม่มีเวลาเตรียมตัวเพื่อได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ ทั้งที่ฐานอื่นดีกว่าคนอื่น
    4.2 ข้อคิดที่ได้  
    ประเทศไทยมีเวลาเตรียมตัวได้เยอะ ถ้ารู้จักตื่นตัวทุกเวลาที่จะพัฒนาความสามารถให้ถึงเป้าหมายของมาตรฐานสากล

5.ชื่อเรื่อง การศึกษาในประเทศสิงคโปร์
     5.1 ข้อสรุปประเด็นที่ได้  
    สิงคโปร์ได้ให้ความสำคัญต่อการพัฒนาการศึกษาของคนในชาติเป็นอย่างมากซึ่งระบบการศึกษาของสิงคโปร์เป็นที่ยอมรับของคนทั่วโลก โดยสิงคโปร์ประกาศว่าจะเป็นศูนย์กลางทางการศึกษามาตรฐานโลกโดยจะให้โอกาสเท่าเทียมกันในด้านการศึกษาเป็นพื้นฐานและจะดึงดูดคนต่างประเทศเข้ามาเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาจนถึงระดับมหาวิทยาลัยโดยรัฐบาลได้วางยุทธศาสตร์ด้านการศึกษา
      5.2 ข้อคิดที่ได้  
    ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่รู้จักการวางแผนปรับปรุงการศึกษาเสมอให้ล้ำหน้าโลก ทำให้สิงคโปร์มีระบบการศึกษาที่ดีของโลกเป็นอันดับที่ 3

6.ชื่อเรื่อง การศึกษาในเประเทศวียดนาม
      6,1 ข้อสรุปประเด็นที่ได้
    ระบบการศึกษาและปัญหาการศึกษาของเวียดนามมีความคล้ายคลึงกับประเทศไทย โดยการจัดการศึกษาของเวียดนามมีการแบ่งเป็นสายสามัญกับสายอาชีพเช่นเดียวกับไทย การศึกษาของเวียดนามเน้นการท่องจำให้เก่ง เพื่อไปสอบเข้ามหาวิทยาลัยแต่พอจบมาคนเหล่านี้จะทำให้เกิดปัญหาประชาชนว่างงานล้นประเทศเวียดนาม ดังนั้นเวียดนามจึงเร่งการแก้ไขปัญหาการศึกษาเช่นเดียวกัน
      6.2 ข้อคิดที่ได้  
    ประเทศไทยควรนำข้อบกพร่องของประเทศอื่นมาเป็นบทเรียนเพื่อแก้ไขประเทศตนเองให้ก้าวหน้ามากขึ้นและมีประสิทธิภาพด้วย

7. ชื่อเรื่อง การศึกษาในประเทศลาว
     7.1 ข้อสรุปประเด็นที่ได้
    ประเทศลาวมีปัจจัยพื้นฐานแห่งการเปลี่ยนเป็นประเทศอุตสาหกรรมและทันสมัย เพื่อบรรลุเป้าหมายนั้น แต่ต้องยึดการศึกษาเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เร่งดำเนินการปฏิรูประบบการศึกษาแห่งชาติให้มีคุณภาพ และมีมาตรฐานสูงขึ้น โดยมุ่งเน้น “ สร้างคนลาวให้เป็นพลเมืองดี มีการศึกษา
     7.2 ข้อคิดที่ได้  
    ประเทศควรมีนโยบายส่งเสริมการศึกษาไทย โดยเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้เด็กไทยรักการเรียนรู้

8.ชื่อเรื่อง การศึกษาในประเทศมาเลเซีย
      8.1 ข้อสรุปประเด็นที่ได้
    รัฐบาลของประเทศมาเลเซียต้องการพัฒนามาเลเซียให้เป็นศูนย์กลางของความเป็นเลิศทางด้านการศึกษาในภูมิภาคนี้โดยมีการวางแผนพัฒนายุทธศาสตร์ด้านการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ผลของการพัฒนาเห็นได้ชัดจากการที่มีนักเรียนต่างชาติเดินทางเข้ามาศึกษาที่ประเทศมาเลเซียสูงมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ ในปัจจุบันมีนักเรียนนักศึกษาต่างชาติมากถึง 50,000 คนจากประเทศต่าง ๆ กว่า 100 ประเทศ แสดงให้เห็นถึงความพร้อมของการศึกษาระดับนานาชาติที่มีคุณภาพ ประกอบกับหลักสูตรที่มีความหลากหลายเป็นที่ยอมรับ และมีราคาที่เหมาะสมด้วย
     8.2 ข้อคิดที่ได้  
    ประเทศมาเลเซียมีความพยายามที่พัฒนาประเทศตนเองให้เป็นเลิศทางวิชาในภูมิภาคอาเซียน

9.ชื่อเรื่อง การศึกษาในประเทศอินโดนีเซีย   
    9.1 ข้อสรุปประเด็นที่ได้  
    การศึกษาอินโดนีเซียไม่มีแผนการเรื่องการแข่งขันกับนานาชาติ หรือการจะเป็นฮับการศึกษาอินเตอร์ในภูมิภาคนี้ เพราะการเป็นชาติระดับแนวหน้าของโลกมุสลิม ทำให้ค่อนข้าง ไม่ให้ความสำคัญกับตะวันตก โดยเฉพาะเรื่องการสนับสนุนด้านภาษาต่างประเทศ ในทางกลับกันอินโดนีเซียมักให้น้ำหนักไปที่การศึกษาในเชิงศาสนาอิสลามและจุดเด่นอีกอย่างหนึ่งทางด้านการศึกษาของอินโดนีเซียก็คือ การเน้นการศึกษาวิชาชีพให้กับผู้เรียนระดับมัธยมศึกษา
    9.2 ข้อคิดที่ได้  
    ประเทศอินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาภาษาอาหรับมากกว่าภาษาอังกฤษ โดยไม่เน้นการปฏิรูปแบบเร่งด่วนเท่าประเทศไทย
\
10.ชื่อเรื่อง การศึกษาในประเทศฟิลิปปินส์
    10.1 ข้อสรุปประเด็นที่ได้  
    ประเทศฟิลิปปินส์ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่ทันสมัยในอาเซียน เป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจและการศึกษาที่สำคัญในเอาเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจาก ประเทศฟิลิปปินส์มีหลักสูตรการศึกษาอันทันสมัยแบบเดียวกับสหรัฐอเมริกาและการศึกษาในรูปแบบอเมริกานี้มีส่วนช่วยให้เกิดการตื่นตัวทางสังคมและเกิดปัญญาชนใน ประเทศฟิลิปปินส์และฟิลิปปินส์ยังใช้รูปแบบการศึกษาแบบอเมริกาในสถานศึกษามาจนถึงปัจจุบัน
   10.2 ข้อคิดที่ได้  
    ประเทศฟิลิปปินส์เป็นประเทศที่มีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษสื่อสารที่สุดในอาเซียน

11.ชื่อเรื่อง  การศึกษาในประเทศบรูไน
   11.1ข้อสรุปประเด็นที่ได้  
    ประเทศบรูไนไม่มีการศึกษาภาคบังคับ แต่รัฐให้การศึกษาแก่ประชาชนเพื่อมุ่งพัฒนาให้มีความสามารถด้านสติปัญญาและมีความสุข และให้เรียนโดยไม่มีค่าใช้จ่าย บรูไนใช้ทั้งภาษามลายูและภาษาอังกฤษสอนเด็กตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โดยใช้ภาษามลายูสอนวิชาความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม พลศึกษา ศิลปะ ส่วนภาษาอังกฤษใช้สอนวิชาหลัก วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เป็นต้น
   11.2ข้อคิดที่ได้  
    ประเทศบรูไนเป็นประเทศที่สอนให้คนมีความสุขในการเรียนและให้ใช้สติปัญญาไตร่ตรองแบบอิสระ



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น